การเดินทางไปต่างประเทศ สิ่งที่สำคัญไม่ได้มีแค่พาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน หรือวีซ่าเท่านั้น เพราะถ้าระหว่างการท่องเที่ยวหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ทริปท่องเที่ยวที่ควรจะมีความสุขก็อาจไม่สนุกเหมือนที่คิด ดังนั้นประกันการเดินทางจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยหากต้องเดินทางไกล วันนี้เราเลยมีเคล็ดลับการเลือกประกันการเดินทางให้เหมาะสมกับแผนทริปของเรา เพื่อเป็นทางเตรียมพร้อมก่อนบิน 

ประกันการเดินทางส่วนใหญ่ครอบคลุมอะไรบ้าง 

 

 โดยส่วนใหญ่แล้ว ประกันการเดินทางจะมีมาตรฐานความคุ้มครองที่ครอบคลุม 4 ด้านสำคัญในการเดินทาง ดังนี้

• ค่ารักษาพยาบาล 

ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเรียกได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในประกันการเดินทาง โดยจะครอบคลุมทั้งการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ รวมถึงอาการป่วยที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันโดยที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้จนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลต่างประเทศ 

• คุ้มครองการเสียชีวิต และทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุ 

ประกันการเดินทางส่วนใหญ่ยังคุ้มครองในกรณีที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุร้ายแรงในต่างประเทศ จนทำให้ถึงแก่ชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ สายตา รวมถึงความทุพพลภาพถาวร 

• คุ้มครองทรัพย์สินเสียหาย หรือสูญหาย 

นอกเหนือจากความคุ้มครองด้านชีวิตแล้ว ประกันการเดินทางยังให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนตัว ทั้งความเสียหาย หรือสูญหายต่อทรัพย์สิน เช่น กระเป๋าเดินทาง หรือทรัพย์สินส่วนตัวอื่น ๆ ด้วย 

• คุ้มครองเกี่ยวกับการเดินทาง 

ในวันที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ หรือเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดจนทำให้เที่ยวบินล่าช้า หรือถูกยกเลิก และส่งผลกระทบต่อการเดินทางของเรา ประกันการเดินทางมักจะ้คุ้มครองในกรณีนี้ด้วย  

• เคล็ดลับการเลือกประกันการเดินทางให้ครอบคลุม 

 

 ประกันการเดินทางมีให้เลือกมากมายหลายแผนความคุ้มครอง หากจะเลือกแผนที่ถูกใจ ตรงตามต้องการของเรามากที่สุด ลองพิจารณาตามปัจจัยต่าง ๆ ในการเดินทาง ดังนี้ 

1. เลือกซื้อตามประเทศที่เดินทาง 

เบี้ยประกันการเดินทางนั้นส่วนใหญ่จะแตกต่างกันไปตามประเทศที่เดินทาง นอกจากนี้ในบางประเทศยังมีข้อกำหนดในเรื่องประกันการเดินทางในขั้นตอนการขอวีซ่า เช่น ประเทศในกลุ่มเชงเก้น (ยุโรป) ที่กำหนดให้ต้องยื่นกรมธรรม์ประกันการเดินทางที่มีวงเงินความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตั้งแต่ 30,000 ยูโรขึ้นไป (ราว 1,100,000 บาท) 

ดังนั้นหากต้องเดินทางไปในประเทศกลุ่มเชงเก้น แนะนำให้เลือกประกันการเดินทางที่คุ้มครองตามวงเงินที่เงื่อนไขกำหนด และหากได้ความคุ้มครองการคืนเบี้ยประกันในกรณีที่ขอวีซ่าไม่ผ่านก็คงจะดีไม่น้อย 

2. เลือกตามวัตถุประสงค์ในการเดินทาง 

การเดินทางไปต่างประเทศนั้น หลายคนก็มีเหตุผลในการเดินทางที่แตกต่างกันไป อย่างใครที่ต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจ มีทรัพย์สินมีค่าติดตัวตลอดการเดินทาง แนะนำให้เลือกประกันการเดินทางที่คุ้มครองในด้านทรัพย์สินเสียหาย หรือสูญหาย รวมถึงคุ้มครองกรณีเที่ยวบินล่าช้า หรือยกเลิก เพื่อเตรียมการไว้ในกรณีที่แผนการเดินทางไม่ราบรื่น 

ส่วนใครที่เดินทางไปท่องเที่ยวอย่างเดียวแนะนำให้เน้นเรื่องความคุ้มครองด้านการรักษาพยาบาลเป็นหลัก เพื่อป้องกันหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอต่อการท่องเที่ยวแล้ว 

3. เลือกตามกิจกรรมในระหว่างการเดินทาง 

สำหรับใครเป็นนักท่องเที่ยวสาย Extreme ที่ชอบทำกิจกรรมท้าทาย ทั้งดำน้ำ เล่นสกี เล่นซิปไลน์ อาจจะต้องพิจารณาทำประกันที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นวางแผนเผื่อกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เจ็บหนัก  

ทั้งนี้ก่อนซื้อประกันการเดินทาง ต้องลองอ่านเงื่อนไขความคุ้มครองของให้แน่ชัดว่ากิจกรรมที่เราวางแผนไว้อยู่ข้อยกเว้นความคุ้มครองหรือไม่เพราะในบางครั้ง ประกันการเดินทางบางแผนอาจจะไม่คุ้มครองในบางกิจกรรม 

4. เลือกตามระยะเวลาในการเดินทาง 

ในกรณีที่ต้องเดินทางไปทำงาน ติดต่อธุรกิจ หรือบินไปเที่ยวต่างประเทศบ่อย ๆ และการเดินทางหนึ่งทริปใช้เวลานานหลายวัน การทำประกันการเดินทางเป็นรายปีอาจจะคุ้มค่ากว่าการซื้อเป็นรายทริป ดังนั้นใครที่ทำอาชีพที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ มีแผนล่วงหน้าในการเดินทาง การทำประกันแบบรายปีก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย 

5. เลือกตามงบประมาณ และจำนวนผู้ร่วมทริป 

 

 งบประมาณถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญในการวางแผนเดินทางท่องเที่ยว และประกันการเดินทางก็มีให้เลือกหลายแผน หลายราคา หากใครที่มีงบจำกัด และมั่นใจว่าทริปของเราจะไม่มีกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยมาก ก็สามารถเลือกเป็นแผนที่ให้ความคุ้มครองเริ่มต้นที่ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว 

อย่างไรก็ตามหากเดินทางเป็นครอบครัว หรือเดินทางกับเพื่อน ๆ กลุ่มใหญ่ การทำประกันการเดินทางีแผนครอบครัว หรือแผนกลุ่มอาจมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าซื้อแยกเป็นรายคนด้วย 

 

เที่ยวสบายทุกไลฟ์สไตล์ด้วยประกันการเดินทางต่างประเทศ “เมืองไทย Happy Trip” 

 

สำหรับใครที่ยังไม่มีประกันการเดินทางต่างประเทศที่ถูกใจ “เมืองไทย Happy Trip” เรียกได้ว่าติ๊กถูกทุกช่องที่เรากล่าวมา มอบทั้งความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และการเสียชีวิตสูงสุดถึง 5,000,000 บาท สามารถใช้ยื่นขอวีซ่าได้ และหากวีซ่าไม่ผ่านก็คืนเบี้ยประกันภัยให้ 100% นอกจากนี้ยังได้ความคุ้มครองอื่น ๆ เช่น 

• คุ้มครองทรัพย์สิน สูญหาย หรือเสียหายสูงสุด 60,000 บาท 

• คุ้มครองเที่ยวบินล่าช้า สูงสุด 40,000 บาท 

• บริการเคลื่อนย้ายการรักษาฉุกเฉิน สูงสุด 30,000,000 บาท 

• บริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง ผ่าน MTI Travel Assistance 

คาดความคุ้มครอง อุ่นใจในทริป ด้วยประกันการเดินทางจากเมืองไทยประกันภัยเบี้ยฯ เริ่มต้นเพียง 165 บาทต่อทริปเท่านั้น หากสนใจสามารถเลือกซื้อ และศึกษารายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครองได้ผ่านเว็บไซต์ www.muangthaiinsurance.com/th/product/travel-insurance 

หมายเหตุ - ผู้ซื้อควรศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นก่อนทำประกันภัยทุกครั้ง