ฝังไมโครชิพสุนัขคืออะไร? จำเป็นหรือไม่สำหรับคู่ซี้สี่ขา?

เจ้าของเพื่อนซี้สี่ขาและคนรักสัตว์หลายๆ คนคงเคยได้ยินการ “ฝังไมโครชิพสุนัข”

ที่ในอดีตหน่วยงานกรุงเทพมหานครได้ออกกฎหมายควบคุมสุนัขด้วยการกำหนดให้เจ้าของพาเจ้าตูบไปฉีดฝังไมโครชิพ เพื่อลดปัญหาจำนวนสุนัขและแมวจรจัด อย่างไรก็ตาม วิธีดังกล่าวยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไหร่อีกทั้งประชาชนส่วนมากยังขาดความรู้ความเข้าใจ วันนี้เราจะมาศึกษารายละเอียดให้ลึกขึ้นกันค่ะว่าสรุปแล้วการฝังไมโครชิพสุนัขคืออะไร? แล้วจำเป็นหรือไม่สำหรับเจ้าตูบ? 

ไมโครชิพสุนัขคืออะไร? 

การฝังไมโครชิพสุนัขคือการฉีดฝังชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กเข้าไปที่บริเวณชั้นใต้ผิวหนังตรงกลางระหว่างหัวไหล่ทั้งสองข้างของสุนัข ซึ่งไมโครชิพสามารถอยู่ในร่างกายของสุนัขได้ตลอดชีวิตโดยไม่มีผลข้างเคียงหรือก่อปฏิกิริยาใด ๆ กับร่างกาย ทั้งนี้ ไมโครชิพแต่ละอันนั้นจะมีเลขประจำตัวที่ไม่ซ้ำกันสำหรับสุนัขแต่ละตัวอยู่ 15 หลัก โดยหมายเลขดังกล่าวจะเชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลที่บันทึกข้อมูลเอาไว้ 3 ส่วน ดังนี้ 

• ข้อมูลของสุนัข เช่น เพศ พันธุ์ อายุ สี หรือ ตำหนิ เป็นต้น
• ข้อมูลของเจ้าสุนัข ได้แก่ ชื่อ-สกุล ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ และหมายเลขโทรศัพท์
• ข้อมูลของหน่วยงานที่ฉีดไมโครชิพ

ซึ่งหากเจ้าตูบหลุดหายออกไปแล้วมีผู้พบเห็นนำมาให้ศูนย์ติดตั้งไมโครชิพตรวจสอบหมายเลขในระบบฐานข้อมูลออนไลน์ ก็สามารถทราบเลขประจำตัวและตรวจสอบหาเจ้าของได้ 

ขั้นตอนการฝังไมโครชิพสุนัขทำอย่างไร? 

สำหรับเจ้าของที่อยากพาเจ้าตูบไปฝังไมโครชิพสามารถแจ้งความประสงค์ที่สถานพยาบาลสัตว์หรือคลินิกสัตวแพทย์ โดยจะต้องเตรียมเอกสารหลักฐานประกอบดังนี้ 

   
1. สำเนาบัตรประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้านที่สุนัขอาศัยอยู่ 
3. สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของบ้าน
4. หนังสือรับรองทะเบียนตัวสุนัข
5. หนังสือรับรองการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า อายุไม่เกิน 1 ปี 
               

หลังจากตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่จะดำเนินการฉีดไมโครชิพเข้าไปบริเวณหลังคอ พร้อมออกเอกสารรับรองการฝังไมโครชิพให้ 

การฝังไมโครชิพสุนัขจำเป็นหรือไม่? 

สำหรับการเลี้ยงสุนัขทั่วๆ ไปที่บ้านนั้นการใช้ปลอกคอที่สามารถใส่ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าของอาจจะเป็นวิธีที่สะดวกและเหมาะสมกว่าการฝังไมโครชิพ เนื่องจากคนทั่วไปส่วนใหญ่อาจไม่รู้ว่าเจ้าตูบของเรามีไมโครชิพหรือไม่ อีกทั้งคลินิกหรือสถานพยาบาลที่สามารถสแกนไมโครชิพนั้นมีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการพาน้องหมาเดินทางไปต่างประเทศ หรือมีสุนัขสำหรับการประกวด การฝังไมโครชิพก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดี เพื่อป้องกันการสลับตัวที่อาจเกิดขึ้นได้